330
การขึ้นทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพื่อรับเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
เริ่มรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม 2566 - กันยายน 2566
► คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. มีสัญชาติไทย
2. มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ตำบลทรายขาว แต่ยังไม่ได้ไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือผู้ที่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาใหม่ก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
3. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือเทศบาล อบต. ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศา หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือเทศบาล อบต. จัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการหรือผู้ป่วยเอดส์ตามระเบียบ
► หลักฐานในการขึ้นทะเบียน ดังนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ (ธนาคารออมสิน/กรุงไทย/ธกส) สำหรับเตรียมการรองรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ
► ผู้อื่นยื่นเอกสารแทนผู้สูงอายุได้หรือไม่?
ในกรณีผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ โดยให้ผู้รับมอบอำนาจติดต่อที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วไปเทศบาลตำบลทรายขาว โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจตัวจริง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
► ผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้รับเงินเท่าไหร่?
ปัจจุบันได้จ่ายแบบขั้นบันได (ตามปีงบประมาณ) ดังนี้
อายุ 60 - 69 ปี จะได้รับ 600 บาท
อายุ 70 -79 ปี จะได้รับ 700 บาท
อายุ 80 - 89 ปี จะได้รับ 800 บาท
อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
*** ในกรณีผู้สูงอายุที่ย้ายภูมิลำเนา***
ผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้ย้ายทะเบียนบ้านจากเทศบาล หรือ อบต. ที่เคยจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดิม ยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจนกว่าจะสิ้นสุดปีงบประมาณนั้น คือเดือนกันยายน
หากมีความประสงค์จะรับเบี้ยยังชีพต่อไป ต้องไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เทศบาลตำบลทรายขาวโดยเร็ว หลังจากได้ทำการย้ายทะเบียนบ้านมายังตำบลทรายขาว เพื่อเริ่มรับเงินที่แห่งใหม่ในเดือนตุลาคมของปีงบประมาณถัดไป หากไม่ดำเนินการ ผู้สูงอายุจะเสียสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ